ปัจจุบัน “ระบบโซลาร์รูฟท็อป” หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ด้วยแผง “โซลาร์เซลล์” บนหลังคาอาคาร ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เนื่องจากช่วยลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าทั้งในส่วนของการใช้ไฟฟ้าเองและการผลิตเพื่อจําหน่ายขายกลับคืนสู่การไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าของกิจการติดตั้ง “ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์” เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่มักถูกละเลย คือ การบํารุงรักษาและดูแลรักษาระบบให้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การบํารุงรักษา “ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์” อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอนั้นมีความสําคัญอย่างมาก สาเหตุดังต่อไปนี้
1. ช่วยให้ “ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์” ทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แม้ว่าระบบ จะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานกลางแจ้ง แต่ฝุ่นละออง คราบสกปรก รวมถึงการกัดกร่อนทางเคมี ล้วนเป็นตัวการหลักที่ทําให้ประสิทธิภาพของ “แผงโซลาร์เซลล์” ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ ฉะนั้นการทําความสะอาด “แผงโซลาร์เซลล์” เพื่อล้างทําความสะอาดผิวแผงอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้แสงอาทิตย์สามารถตกกระทบลงบน “แผงโซลาร์เซลล์” ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีที่สุด
2. ช่วยยืดอายุการใช้งานของ “Solar cell” และอุปกรณ์
การสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกบนผิวแผงโซลาร์เซลล์ และ อุปกรณ์แปลงไฟ “ Inverter” นอกจากจะทําให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าลดลงแล้ว ยังอาจส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชํารุดเสียหายได้ในระยะยาวอีกด้วย ฉะนั้นการทําความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ให้นานที่สุด
3. ช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ตามสัญญารับประกันผลงาน
ผู้รับเหมาติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปส่วนใหญ่ จะมีการรับประกันผลงานหลังการติดตั้ง โดยรับประกันประสิทธิภาพหรือปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ตามที่ระบุ รวมถึงการรับประกันคุณภาพของผลงานติดตั้ง ดังนั้นหากขาดการบํารุงรักษาที่ดี อาจส่งผลให้สูญเสียสิทธิ์ในการเรียกร้องตามสัญญารับประกันดังกล่าวได้
การบํารุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์ที่ดี ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
- การทําความสะอาด “Solar cell” โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกตกสะสมมาก ควรทําความสะอาด โดยใช้น้ำล้างแผงโซลาร์ด้วยอุปกรณ์ถูพิเศษ เช่น แปรงขนอ่อน ไมโครไฟเบอร์ ผ้าสักหลาด หรือฟองน้ำ
- ตรวจสอบสายเชื่อมต่อไฟฟ้า ตรวจหารอยชํารุดของฉนวนหุ้มสาย รวมถึงการตรวจเช็คจุดต่อสายไฟ เพื่อค้นหาจุดที่อาจเกิดความร้อนสูงเนื่องจากการสูญเสียไฟฟ้าบริเวณนั้น
- ตรวจวัดแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าที่ “แผงโซลาร์เซลล์” ผลิตได้ เพื่อคํานวณเปรียบเทียบปริมาณกําลังไฟฟ้าที่ผลิตได้ของระบบ
- ตรวจสอบสภาพอินเวอร์เตอร์และเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า โดยทำความสะอาดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสม และตรวจวัดการทํางานของอุปกรณ์ รวมถึงการวัดอุณหภูมิการทํางานของอุปกรณ์
- ตรวจสอบโครงสร้างระบบยึดแผงโซลาร์เซลล์ ตรวจสอบโดยวิศวกร สํารวจหาร่องรอยแตกร้าว ผุกร่อน รวมถึงความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างจับยึดแผง
- ตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีครบอายุการใช้งาน เพราะความเสื่อมสภาพภายในจะมีโอกาสเกิดขึ้น
สรุป การบํารุงรักษา “ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์” จึงมีความสําคัญต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบ หากมองข้ามจะทําให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากระบบได้อย่างคุ้มค่า Goldbeck Solar พร้อมให้คําปรึกษาและบริการดูแลบํารุงรักษา เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าของเราครับ